มะละกออินทรีย์

มะละกออินทรีย์
ทางเลือกใหม่ของการปลูกมะละกอ

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

เทคนิคการเพาะมะละกอแบบมืออาชีพ

เทคนิคการเพาะมะละกอแบบมืออาชีพ


การเพาะเมล็ดพันธุ์มะละกอไม่ยากอย่างที่คิด ลองทำตามขั้นตอนดูนะครับ
1.ให้ นำน้ำเดือด 1 ลิตร ผสมน้ำธรรมดา  1ลิตร  แช่เมล็ดทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นเติม
 ไคโตซาน ชนิดน้ำ  5 ซีซี แช่ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อกระตุ้นการงอก
2. นำเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว 1 คืนขยี้เมือกออกแล้วล้างให้สะอาด แล้วนำเมล็ดมาแช่ใน สารละลาย                    วีอาร์โปรเทค (สมุนไพรกระตุ้นการงอก และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคพืข) อัตราการใช้ 50 ซี.ซี ผสมน้ำ 1 ลิตร แช่เมล็ดนาน 30 นาที
3. จากนั้นนำเมล็ดมะละกอไปบ่มในกระสอบป่าน วางในห้องน้ำรดน้ำเช้าเย็น หรือ บ่มในผ้าขนหนู จนกว่าเมล็ดจะงอก แล้วนำไปหยอดลงถาดหลุมสำหรับเพาะเมล็ดขนาด 60 หลุม


4. นำอาหารมีเดียชนิดพิเศษสำหรับการเพาะมะละกอเท่านั้น โดย ใส่ในถาดหลุมขนาด
60  หลุม ให้ใส่ให้เต็ม เอามือกดให้แน่น แล้วหยอดเมล็ดหลุมละ 3 เมล็ด 

แล้วใช้อาหารมีเดียชนิดพิเศษโรยทับเมล็ดมะละกอบาง ๆ


เลือกใช้มีเดีย ไม่ใช้ดิน เพราะ


-ปลอดเชื้อ
- ความเป็นกรด-ด่างเหมาะสม
-ไม่ต้องผสมดิน ไม่ยุ่งยาก

5. หลังจากนั้น ให้ทำการพ่นให้น้ำเปล่าทุกวัน วันละ 1 ครั้ง
6. หลังจากต้นกล้างอก 10 วันให้เอา กาโร  อัตราการใช้ 5 ซีซีผสมน้ำ 20 ลิตร
โดยใช้เครื่องพ่นยาชนิดแบตเตอรี่พ่นฝอยพ่นทุก ๆ 5 วัน

7. ต้นกล้างอก 3 สัปดาห์ให้เริ่มเอาออกกมาตากแดดนะครับ

8. ซูซาร์ สารไล่แมลง 50 ซี.ซี ผสมนำทาง 1 ซีซี. ฉีดพ่นแมลงบริเวณที่วางต้นกล้า
และรอบ ๆ ทุก ๆ 5 วัน อย่าพ่นให้โดนต้นกล้านะครับ
9. การวางต้นกล้าให้วางในโรงเรือนที่ไม่โดนฝน และไม่ควรวางต้นกล้ากับพื้นดินเพื่อป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าที่มากับพื้นดิน


ข้อมูลเพิ่มเติม
1.กาโรสารตัวช่วยพืช ขนาดประหยัด 100 ซีซี. 150 บาท
2.วีอาร์โปรเทค  ขนาดประหยัด 100 ซีซี. 100 บาท  
3.เอซีไคโตซาน ขนาดประหยัด 100 ซีซี.  100 บาท
4.เมล็ดพันธุ์มะละกอรับประกัน ขนาด 20 กรัม 500 บาท                                                                               ขนาด 50 กรัม 950 บาท
5.สั่งจองต้นกล้ามะละกอพร้อมปลูกในถาดหลุมขนาด 60หลุมๆละ 3 ต้นถาดละ 300 บาท
 ในถุงดำ 3 ต้น 9 บาท จัดส่งทางขนส่งเคอรี่เอ็กซ์เพรส
 สนใจโทร 086-059-6790 ID line : aoacthai
หมายเลขบัญชีการชำระค่าสินค้า 123-2-45945-6
ธนาคารกสิกรไทย สาขาลำนารายณ์
ชื่อบัญชี นายประยงค์ แก้วหมุน ประเภท ออมทรัพย์
การจัดส่งสินค้า จัดส่งผ่านไปรษณีย์ Ems ใช้ระยะเวลา 1-3 วัน                                                                                         
ติดต่อผ่านไลน์ 

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

เขาหาว่าผมเป็นเซียนมะละกอ

เขาหาว่าผมเป็นเซียนมะละกอ

ภาพสมัยหนุ่ม ๆ

ก่อนจะมาเป็นเซียนมะละกอ ผมล้มลุกคลุกคลานมาก่อน  ปลูกมะละกอครั้งแรกเป็นไวรัสเกือบหมด  เดือดร้อนไปถึง ธกส.ต้องยืนโนติสเตรียมยึดที่ดินทำกิน เพราะไม่ยอมจ่ายหนี้เขา 3แสนกว่าบาท


มานั่งทบทวนอยู่หลายวัน  ก็ได้คำตอบออกมาว่า เราไม่รู้จักมะละกอ เราจะปลูกมะละกอสำเร็จได้อย่างไร ถ้าอยากปลูกมะละกอให้สำเร็จ เราต้องรู้จักเขาให้ดีพอ  ก่อนหน้านี้เราปลูกมะละกอตามคำแนะนำของร้านค้าขายปุ๋ยขายยาเคมีการเกษตร  มะละกอเป็นอะไรเราก็ไปเล่าให้เขาฟัง เขาจัดยาให้ เราก็นำมาฉีดพ่น  ไม่สนใจว่าจะเป็นอินทรีย์หรือเคมี ขอให้มะละกอเรารอดเป็นใช้ได้  สุดท้ายมันก็เป็นไวรัสตายทีละต้น 2 ต้น จนหมดแปลง  แต่ที่แปลก มันจะตายตอนติดลูกดกเต็มคอ เสียดายมาก ๆ ตัดต้นทิ้งไปเศร้าใจไป



ทำการรู้จักธรรมชาติของมะละกอ  เรียนรู้ให้ลึกซึ้ง แล้วเริ่มต้นปลูกใหม่

กลับไปศึกษาเรื่องดิน เรื่องพืช เรื่องปุ๋ย เรื่องน้ำ สารพัดเรื่องเกี่ยวกับการทำเกษตร ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน  สถาบันที่ตัวเองเรียนจบปริญญามา ตอนแรกที่กลับไปอาจารย์ภาคปฐพีถามว่า   อ้าวจบแล้วจะมาเรียนอีกทำไม  ตอบอาจารย์กลับไปว่า รับปริญญาแล้วผมไม่รุ้อะไรเลย ขอเรียนเรื่องดินอีกทีครับ ผมจะเรียนการตรวจความเป็นกรดเป็นด่างของดินและธาตุอาหารในดิน เรียนโครงสร้างของดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชแต่ละชนิด  สูตรการผสมปุ๋ยต่าง ๆ ปุ๋ยมีที่ไปที่มาอย่างไร


จากภาควิชาปฐมพีวิทยาก็ไปดูการปลูกมะละกอที่ภาควิชาพืชสวน ไปศึกษาเรื่องเพศมะละกอกับ อ.ดร.ระวี


  ไปคุยกับอาจารย์ภาควิชาโรคพืช ไปปรึกษาเรื่องไวรัสด่างวงแหวนในมะละกอ อาจารย์บอกว่าไวรัสเกิดจากแมลงเป็นพาหะนำโรคแล้วกระจายไปทั่วแปลง  ผมกลับไปภาควิชากีฏวิทยาอีกครั้ง ไปศึกษาเรื่องแมลงศัตรูมะละกอ  ไปเรียนการวางระบบน้ำกับรุ่นพี่วิศวเกษตร





 แล้วเริ่มต้นปลูกมะละกอใหม่ ให้ความสนใจทุกขั้นตอน  ตั้งแต่การเตรียมดิน


 การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การป้องกันกำจัดแมลง  การป้องกันกำจัดโรคพืช  การป้องกันกำจัดวัชพืช



ผมลองผิดลองถูกตามหลักวิชาการที่ได้เล่าเรียนมารอบใหม่ ผมค่อยๆเริ่มหันมาผลิตพืชแบบอินทรีย์ ใช้สารเคมีน้อยลง จนในที่สุดเลิกใช้สารเคมีหันมาใช้สารอินทรีย์แบบคิดเองเต็มรูปแบบ แปลกมากยิ่งใช้สารอินทรีย์  มะละกอเป็นโรคน้อยลง  เพราะผมใช้หลักการป้องกันโรค ผมไม่รักษา เพราะผมรู้ว่ารอบที่ผ่านมาไวรัสมะละกอมันรักษาไม่หาย ฉะนั้นผมป้องกันตั้งแต่การเลือกเมล็ดพันธุ์กันเลยทีเดียว



ผมเริ่มถ่ายทอดความรู้เรื่องการปลูกมะละกอแบบอินทรีย์ ปลูกมะละกออย่างไร ไม่ให้เป็นโรคไวรัสด่างวงแหวน  ปลูกมะละกออย่างไรให้ได้เงินล้าน ชื่อหลักสูตรการผลิตมะละกออินทรีย์เงินล้าน

ให้กับเพื่อนเกษตรกรที่สนใจ
การปลูกมะละกอที่เป็นความลับมายาวนาน ก็ถูกเปิดเผย โดยไม่คิดค่าตอบแทนใด ๆ ทำไมการปลูกมะละกอจึงเป็นความลับ ก็เพราะคนปลูกมะละกอกลัวมะละกอล้นตลาด เนื่องจากมะละกออกลูกออกดอกทั้งปี ฉะนั้นใครทำสำเร็จก็จะเก็บเงียบ




สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่ความลับแต่มันเป็นความทุกข์ของเกษตรกรทุกคนที่ปลูกมะละกอ เจอปัญหาไม่รู้จะไปปรึกษาใคร  เอาปัญหาไปปรึกษามีแต่พวกขายเคมี ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ไม่มีใครช่วยวิเคราะห์ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ สาเหตุของปัญหามาจากอะไร มีแต่จ่าย จ่าย  จ่าย ลูกเดียว



มีปัญหามะละกอ ปรึกษาผมได้ยินดีตอบทุกคำถาม ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้า ส่งรูปผ่านไลน์มาให้วิเคราะห์  ผมวิเคราะห์มาแล้วนับไม่ถ้วน  ยินดีวินิจฉัยโรคให้ฟรีโดยไม่คิดค่าตอบตอบแทนใด ๆ
ID LINE : aoacthai


โทร 0860596790


ประวัติย่อ ๆ ของผมนะครับ


วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

การแก้ปัญหามะละกอผลเน่า

การแก้ปัญหามะละกอผลเน่า


แวะไปเยี่ยมเกษตรกรท่านหนึ่ง ไปที่บ้านไม่เจอเจ้าของสวน ก็เลยจอดรดเดินเข้าไปในสวนโดยพลการ ได้ยินเสียงคน 2-3 คนกำลังคุยกันเสียงดังโวยวายมาแต่ไกล ก็เลยเดินตามเสียงไป
อ้าวน้องเจ้าของสวนมะละกอนั่นเองกำลังเถียง(ทะเลาะ) อยู่กับแม่ค้าผู้รับซื้อมะละกอเสียงดังเลย แม่ค้าเอามะละกอเที่ยวที่รับซื้อคราวที่แล้วมาคืนกว่า 300 กิโลกรัม แม่ค้าบอกว่าเอาไปวางขายได้แค่ 3 วัน แล้วมะละกอมันเน่าเป็นจุดหมดเลย รับซื้อมา 2 ตันเป็นจุดไป 300 กิโลกรัม เจ้าของสวนบอกว่า ตอนที่พี่มารับที่สวนหนูมันไม่เห็นเป็นจุดเลย ทำไมไปอยู่กับพี่แล้วมันเป็นจุด ที่ขายให้พี่ไปหนูก็คัดอย่างดีแล้วนะ

แม่ค้าบอกว่า ถ้าเจ้าของสวนไม่รับคืนหรือเปลี่ยนให้แม่ค้าก็ขาดทุน ขายของไปก็เหมือนขายฟรี ๆ ไม่ได้กำไรอะไรเลย
เขาเถียงกันอยู่นาน ผมเลยเข้าไปเป็นกรรมการมวย สุดท้ายก็ตกลงกันได้ด้วยดี วันนั้นผมเข้าข้างแม่ค้า แล้วแก้ปัญหาให้เจ้าของสวนให้มีความสุขโดยการเอาสมุนไพรต้านโรคพืชไปฝากเจ้าของสวน 3 ขวด และรับปากแม่ค้าว่าเที่ยวหน้าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดอีกหรือไม่ก็เกิดน้อยที่สุด ผมจะช่วยแก้ปัญหาให้เจ้าของสวนเอง ผมก็ค่อย ๆ เห็นรอยยิ้มของทั้งสองฝ่าย

การเป็นเกษตรกรไทย ต้องรับผิดชอบและต้องต่อสู้มากมาย ไหนจะต้องต่อสู้กับสภาวะอากาศที่แปรปรวน ทำให้พืชผลเกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกมากมาย ไหนจะต้องต่อสู้กับภัยแล้งไม่มีน้ำรดต้นไม้ ไหนจะต้องต่อสู้กับความไม่แน่นอนของราคาผลผลิตที่ขึ้นลงตามใจแม่ค้า ไม่สนใจต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ไหนจะต้องอดทนผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเป็นที่พอใจของผู้บริโภคมีปัญหาก็ต้องรับคืน...ผมเข้าใจ แต่อย่างไรก็ต้องสู้ ถอยไม่ได้ ผมตบไหลให้กำลังใจน้องเจ้าของสวนเบา ๆ ก่อนจะอธิบายเรื่อง ของมะละกอผลเน่า


มะละกอผลเน่าตามหลักวิชาการ เกิดจากเชื้อราโรคแอนแทรคโนสมะละกอ (Colletotrichum gloeosporioides) เป็นโรคอันตรายร้ายแรงโรคหนึ่งของมะละกอถ้าเป็นแล้วจะลามไปทั้งสวน รักษาให้หายยาก โรคนี้จะไม่ทำให้ต้นมะละกอถึงกับตายแต่จะทำให้เจ้าของสวนมะละกอตายก่อน เพราะผลผลิตขายตลาดไม่ได้ ขายไปก็ต้องคอยทะเลาะกับแม่ค้าผู้รับซื้อ เพราะผลมะละกอที่เก็บไปพอเริ่มสุกแม่ค้ากำลังจะขายได้ก็จะมีจุดสีดำหรือสีน้ำตาลหรือมีรอบบุ๋มลงไปในลูก ลูกค้าไม่กล้าซื้อ แม่ค้าก็ต้องขาดทุน



จากประสบการณ์ในการปลูกมะละกอมากว่า 10 ปีของผมพบว่าโรคนี้ เกิดมาจากการที่เราเกษตรกรให้ปุ๋ยเคมีที่มีไนโตรเจนสูงมากเกินไป เพราะเกษตรกรอยากให้ลูกมะละกอโตเร็ว จะได้ขายเร็ว ๆ จะได้คืนทุนที่ไปกู้ยืมเขามาลงทุนไว ๆ ก็เลยอัดปุ๋ยเคมีกันเต็มที่ทุก 7-10 วัน  หรือบางราย อัดปุ๋ยเคมีทุก 21 วันไร่ละ 1 กระสอบ 50 กิโลกรัม  ไนโตเจน เมื่อพืชได้รับมากจนเกินไปก็จะเกิดอาการแพ้ไนโตรเจน เกิดอาการอ่อนแอต่อโรคได้ง่าย ถ้าเปรียบเทียบกับคนก็เหมือนอาการร้อนในเป็นแผลในปากนั่นเองครับ โดยการแสดงอาการของพืชจะแสดงที่ใบพืชก่อน ใบพืชจะมีอาการเป็นจุด ๆ จากนั้นก็จะลุกลามไปทำลายลูกหรือผล





ส่วนดินเมื่อได้รับปุ๋ยเคมีมากเกินไปดินก็จะมีสภาพเป็นกรด เมื่อดินเป็นกรดนั่นหมายถึงค่า Ph จะต่ำลงนั่นเอง ซึ่งมะละกอจะเจริญเติบโตได้ดีที่ PH อยู่ระหว่าง 6-7 เพราะในภาพที่ดินเป็นกรดรากพืชก็จะทำงานได้ไม่ดี ต้นพืชก็จะอ่อนแอและเกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย

วิธีการแก้ปัญหามะละกอผลเน่า


1. ให้เกษตรกรงดการให้ปุ๋ยเคมีทุกอย่างลงชั่วคราว จนกว่าอาการของมะละกอจะดีขึ้น หลังจากนั้นให้ปุ๋ยตามปริมาณที่พืชต้องการ และไม่ให้ปุ๋ยเคมีโดยตรงกับมะละกอ ให้ปุ๋ยทางอ้อมแทน เช่นละลายน้ำก่อนให้ปุ๋ยเป็นต้น 

2. ลดปริมาณและเวลาการให้น้ำพืชลง หมายถึงให้น้ำน้อยลง เช่นเคยให้น้ำ ว้นเว้นวันก็เปลี่ยนเป็น 2 วันครั้ง ปกติให้น้ำ 2 ชั่วโมง ก็ลดเหลือชั่วโมงเดียว และให้น้ำเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้นห้ามให้น้ำพืชตอนเย็น

3. ใช้สมุนไพรต้านโรคพืชเวตาเอ็กซ์ตราอัตรา 30 ซีซี. ผสมน้ำ 20ลิตร ผสม สารช่วยการดูดซึมนำทาง2 ฉีดพ่นทุก 5 วัน ปกติฉีดพ่น 2 ครั้งอาการก็ดีขึ้นแล้ว สังเกตจากแผลจะเริ่มแห้งตั้งแต่ฉีดพ่นครั้งแรก แต่ตามหลักความจริงให้ปลิดลูกที่เป็นโรคทิ้งแล้วฉีดพ่นล้างทั้งแปลง 5 วันครั้งติดต่อกัน3 ครั้ง จากนั้นก็ค่อย ๆ ถอยมาเป็นทุก 7 วัน ทุก 10 วันเป็นต้น

สำหรับสมุนไพรต้านโรคพืชเวตาเอ็กซ์ตรา ตัวนี้เป็นสูตรสารสกัดจากสมุนไพรไทยหลายชนิดเช่น เปลือกมังคุด ว่านน้ำ ขมิ้น ฯลฯ ที่ผมใช้เวลาคิดค้นและทดลองมาเป็นเวลากว่า 10 ปีจนได้เป็นสมุนไพรสกัดด้วยตัวทำละลายที่มีประสิทธิสูงในการกำจัดเชื้อราในปัจจุบัน เหตุผลที่หันมาศึกษาเรื่องสมุนไพรเพราะตัวเองมีปัญหาสุขภาพไม่อยากใช้สารเคมี และสารเคมีที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเชื้อราโรคพืชก็มีราคาแพงมาก ลิตรละหลักพันถึงหลายพันเลยทีเดียว ในขณะสมุนไพรตัวนี้จำหน่ายอยู่ที่ลิตรละ 600 บาทเท่านั้น





มีปัญหาเรื่องมะละกอ สนใจสมุนไพรต้านโรคพืชเวตาเอ็กซ์ตรา ติดต่อชมรมเกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า 0860596790 ID line : aoacthai

การสั่งซื้อ
ติดต่อ ชมรมเกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า
โทร 0860596790
ID line : aoacthai
E-mail : pranpha@gmail.com

หมายเลขบัญชีชำระค่าสินค้า


123-2-45945-6 ธนาคารกสิกรไทย สาขาลำนารายณ์
ชื่อบัญชี ประยงค์ แก้วหมุน
การจัดส่งสินค้า
จัดส่งทางไปรษณีย์ EMS ทั่วประเทศ ระยะเวลาการจัดส่ง 1-2 วัน


วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

เทคนิค ทำให้ผลมะละกอสุกเร็วขึ้น



 ปัญหาหนักอกหนักใจอีกปัญหาหนึ่งของเจ้าของสวนมะละกอก็คือ มะละกอมันสุกช้าไม่ทันใจเจ้าของ ไม่ทันใจแม่ค้า ลุ้นมาหลายวันแล้วไม่ยอมเขียวสักที มาดูธรรมชาติของมะละกอกันนะครับ ปกติมะละกอเมื่อแก่เต็มที่แล้วจะสุกสัปดาห์ละประมาณ 1-2 ลูกต่อต้น ถ้ามะละกอฮอลแลนด์ให้สังเกตมีแต้มสีเหลืองเกิดขึ้นที่ลูกอย่างน้อย 2 แต้มก็ให้เก็บมาบ่มได้เลยครับ แต่ปกติแม่ค้าจะรับซื้อที่ 2 แต้มนี่แหละเพราะจะได้เก็บไว้ขายได้หลายวันและเวลาเคลื่อนย้ายผิวของมะละกอจะได้ไม่ช้ำ ต่ถ้ามะละกอไม่ยอมสุกหรือสุกช้าก็เพราะ


การสุกช้าของมะละกอ....สาเหตุ




1.  มะละกอขาดน้ำ  หรือ มีน้ำมากจนเกินไป
2.  มะละกอขาดธาตุอาหารหลัก คือ โปรแตสเซี่ยม ธาตุโปรแตสเซี่ยม มีผลต่อการสะสมแป้งและน้ำตาลในมะละกอ ทำให้ผลมะละกอสุกช้าได้
3.  มะละกอขาดธาตุอาหารเสริมที่จำเป็น นั่นก็คือ ธาตุโบรอน ธาตุโบรอน มีผลต่อการเข้าสี ธาตุโบรอนทำให้เนื้อแน่น ผิวสวยและมีรสชาติดี
4.  มะละขาดฮอร์โมนพืชบางอย่าง เช่น จิบเบอเรลลิน
5.  ความเป็นกรดเป็นด่างในดินก็ผลต่อการสุกด้วยนะครับ พบว่า ดินเป็นด่างจะทำให้มะละกอสุกเร็วกว่าดินเป็นกรด
6.  การได้รับธาตุอาหารพืชบางอย่างมากเกินไป เช่นไนโตรเจน ก็ทำให้มะละกอสุกช้าและฉ่ำน้ำ เนื้อเหลว ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
7.  การให้น้ำมากเกินไป ก็มีผลทำให้มะละกอสุกช้าและฉ่ำน้ำเช่นกันครับ


การแก้ปัญหาการสุกช้าแบบได้ผล



1.ควบคุมการให้น้ำให้ดินมีความชื้นอยู่ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ หรือให้น้ำ 2-3 วันต่อครั้งในหน้าร้อนตามสภาพดิน

2.เติม ธาตุอาหารทางดินให้พืช ใช้แร่โปแตสเซียม(โปแตสเซี่ยมคลอไรด์ KCL) หรือรู้จักกันในรูป 0-0-60 อัตราการใช้ 2 กิโลกรัมละลายน้ำ 200 ลิตร เติมไวท์อีเอ็ม 500 ซีซี.หมักทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้แร่โปแตสเซี่ยมแตกตัวเป็นอิออน ที่พืชสามารถนำไปใช้งานได้ทันที จากนั้นนำไปราดโคนต้นมะละกอทุก 7-10 วัน โปแตสเซี่ยมจะทำหน้าลำเลียงแป้งและน้ำตาลจากใบพืชลงมาสู่ผลมะละกอ แป้งและน้ำตาลมีผลต่อการแก่และการสุกของผลไม้


3.  ฉีดพ่นอาหารเสริมทางใบ บิ๊กไซส์(bigsize) 30 ซีซี. +โบรอนน้ำเข้มข้น 20 ซีซี. + นำทาง2อัตรา 1 ซีซี. ผสมน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นทางใบให้เป็นละอองฝอยทุก 5-7 วัน


รับรอง ผลมะละกอจะสุกทันใจเจ้าของสวนและทันใจแม่ค้าผู้รับซื้อ  เพราะบิ๊กไซด์มีส่วนผสมของ สาหร่ายทะเล  กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างเนื้อและการสุกของผลไม้  ฮอร์โมนพืชที่มีปริมาณความเข้มข้นสูง  น้ำตาลทางด่วนเพิ่มสร้างเสริมแป้งและน้ำตาลในผลไม้ เป็นต้น    โบรอนความเข้มข้นสูงของชมรมเกษตรอินทรีย์ก้าวหน้าเป็นโบรอนที่สกัดจากธรรมชาติละลายในตัวทำละลายที่เหมาะสม เมื่อฉีดพ่นเข้าสู่ใบพืช จะทำให้พืชนำไปใช้งานได้ทันที



ข้อมูลจำเพาะบิ๊กไซด์
สารอินทรีย์เพิ่มขนาดผลไม้ ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น สาหร่ายทะเล น้ำตาลทางด่วน ธาตุเสริมที่จำเป็น ฯลฯ ทำให้ผลไม้โตไว เข้าสีดี ป้องกันผลแตก ผิวสวย รสชาติดี เพียงฉีดพ่นหลังผลไม้ติดลูกทุก 5-7 วันความผลไม้จะสุกไว ลดระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวเพิ่มน้ำหนักผลผลิต เพิ่มงินทองเข้ากระเป๋าให้กับ เจ้าของสวนอัตราการใช้ 20 ซีซี.ผสมน้ำ 20 ลิตร 





หมายเหตุ : โดยทั่วไปเกษตรจะถูกแนะนำให้ใช้แคลเซี่ยม-โบรอนฉีดพ่น อยากจะบอกว่าไม่ค่อยได้ผลเพราะมีโบรอนต่ำแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เองแต่โบรอนของชมรมฯโบรอนมีความเข้มข้นมากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เห็นผลได้ชัดเจน 



บิ๊กไซส์ขนาด 500 ซีซี 450 บาท เอซีโบรอนขนาด 1 ลิตร 450 บาท
สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ โทร 086-059-6790 ID line : aoacthai
หมายเลขบัญชีการชำระค่าสินค้า 123-2-45945-6
ธนาคารกสิกรไทย สาขาลำนารายณ์
ชื่อบัญชี นายประยงค์ แก้วหมุน ประเภท ออมทรัพย์
การจัดส่งสินค้า จัดส่งผ่านไปรษณีย์ Ems ใช้ระยะเวลา 1-3 วัน

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

การตลาดมะละกอ


คุณใหญ่ครับ ผมมั่นใจเรื่องพันธุ์ และ ผลิตภัณฑ์ จากทีมงานมากครับ ผมทดลองเรียนรู้ ปลูกประมาณ 1 ไร่ ตอนนี้ 3 เดือน เริ่ม แทงดอกคัดเพศแล้วครับ มีที่เป็นโรคบ้าง ขออนุญาตครับว่า น่าจะมีทีมงานที่ปรึกษาด้านการตลาดแนะนำสมาชิกด้วยนะครับ เพราะบางที่ ราคาหน้าสวนกิโลละ 3 บาท
ถูกใจ · ตอบกลับ · ข้อความ · 1 · 22 ตุลาคม 2015 เวลา 14:33 น.
มีคนเข้ามาตอบเมื่อผมโพสต์คติสอนใจ ที่มีรูปมะละกอ ผมมองแค่ผ่าน ๆ เพราะว่าตั้งใจจะให้คติธรรม ไม่ได้จะสอนวิชาการเรื่องมะละกอ มะละกอเป็นเพียงแค่ภาพประกอบเท่านั้น
จากคอมเมนต์หรือคำตอบที่ผมได้มา ทำให้ผมรู้ว่าเกษตรกรไทย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการผลิต แต่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องการตลาด
ปลูกแล้วเป็นโรคก็โค่นทิ้ง ไถทิ้งปลูกใหม่ ยอมสู้ตาย ขอให้สินค้าราคาดีก็พอ อ้าวแล้วถ้าปลูกแล้วราคาไม่ดีล่ะจะทำอย่างไรดี ก็ยอมโค่นทิ้งเหมือนกัน แล้วนำที่ทางไปมอบถวายให้ ธกส.หรือ นายทุนที่ไปกู้ยืมเงินเขามาลงทุน
ผมเคยยบอกหลายคนว่าไม่ว่าเราจะปลูกพืชอะไรก็ตาม ขอให้เรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของพืชที่เราปลูก แต่ต่อจากนี้ไปนอกจากเราจะรู้ธรรมชาติของพืชที่เราปลูกแล้ว เราจะต้องเรียนรู้ธรรมชาติการตลาดของพืชที่เราปลูกด้วย
หมายความว่าอย่างไร เกษตรกรต้องจบการตลาดด้วยใช่ไหม ใช่ครับ เกษตรกรต้องเข้าใจการตลาดด้วย จะจบหรือไม่จบไม่สำคัญ
ฟังดี ๆ นะการปลูกมะละกอเหมือนกับการเล่นหุ้น มีขึ้นมีลงเป็นรายวัน รายเดือน รายปี ปลูกมะละกอต้องรู้จังหวะฉะโคน ต้องรู้ว่ามะละกอช่วงไหนแพง ก็ปลูกให้ออกลูกช่วงนั้น ไม่ใช่ปลูกให้ออกลูกทั้งปีแล้วมานั่งโอดครวญว่ามะละกอถูก ใครก็ไม่ซื้อ รัฐบาลก็ไม่ช่วย มัวแต่ทะเลาะกัน
ผมปลูกมะละกอ ผมมานั่งแก้ปัญหารายวัน บางวันก็ต้องเป็นกรรมการมวยจำเป็น เนื่องจากแม่ค้ามาทะเลาะกันหน้าสวน แย่งซื้อมะละกอกันหน้าสวน ผมไม่ต้องไปตะเวนขายมะละกอ ผมไม่ต้องไปหาตลาด ตลาดวิ่้งมาหาผม
ทำไมจึงเกิดปัญหาเช่นนั้นกับผม ก็เพราะผมปลูกมะละกอให้มันเก็บเกี่ยวผลผลิตเดือน สิงหา กันยา ตุลา ของทุกปี ผมนั่งรออยู่ที่สวนแม่ค้าก็วิ่งเข้ามาจนเกิดโกลาหนแล้วครับ
แค่เป็นปริศนาให้คิด เป็นเกษตรกรก็รวยได้ ถ้าเข้าใจธรรมชาติและการตลาดของพืชที่เราปลูก
yaiyada 3/9/59